การส่งเสริมกระบวนการคิดสำหรับนักสำรวจน้อย
:
การพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5
โดยรองศาสตราจารย์ ดร.นภเนตร ธรรมบวร
อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ
จากหนังสือ ๗๐ปีโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า วัย 8-9 ขวบ เป็นวัยของความอยากรู้อยากเห็นเด็กวัยนี้มักแอบสำรวจตรวจสอบสิ่งต่างๆ รอบตนเองอยู่เสมอๆ โดยเด็กๆ ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่นั้นเป็นกระบวนการหนึ่งในการสืบค้นหาคำตอบทางวิทยาศาสตร์ การสำรวจเป็นคุณสมบัติที่เด็กเกือบทุกคนมีอยู่ในตนเอง เพียงแต่บางครั้งการแสดงออกซึ่งความอยากรู้อยากเห็นอาจยังไม่เหมาะสมจึงทำให้ผู้ใหญ่มองข้ามหรือละเลยไปได้ ยิ่งกว่านั้น เราก็คงจำเป็นต้องยอมรับว่า ความสามารถในการสำรวจเก็บรวมรวม และสื่อสารข้อมูลที่มีความละเอียดเป็นระบบ และถูกต้องนั้นเป็นทักษะที่คนไทยเราขาดความชำนาญ และขาดการฝึกฝนตั้งแต่ในวัยเด็ก ทำให้เรามักมีปัญหาในการบอกทิศทางเวลาที่คนถามทางกันเสมอๆ เรามักพบว่าไม่สามารถบอกทิศทางที่มีความเข้าใจตรงกันได้อย่างถูกต้อง หรือเมื่อยามต้องถ่ายทอด หรือเล่าราละเอียดของสิ่งที่ไปพบประสบพบเห็นมา ก็มักมีปัญหาในการสื่อสารให้ผู้ฟังเกิดจินตนาการที่เข้าใจตรงกันได้
จะเห็นได้ว่าทักษะในการสำรวจ เก็บรวบรวม และสื่อสารข้อมูลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ นอกจากนั้น การสำรวจในบางครั้งอาจส่งผลให้ผู้สำรวจเกิดปัญหาหรือข้อสงสัยอันอาจนำไปสู่การตั้งคำถามในเชิงวิทยาศาสตร์ได้ แต่ใครจะเชื่อบ้างว่า เพียงแค่ดอกไม้ไม่กี่ดอกในแจกันจะส่งผลให้เด็กๆ กลายเป็นนักสำรวจน้อยไปได้ ซึ่งคุณสมบัติสำคัญที่นักสำรวจน้อยแต่ละคนจำเป็นต้องมีเพื่อให้การสำรวจบรรลุวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมายได้ คือ การใช้ประสาทสัมผัสของตนเองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเด็กกลุ่มหนึ่งจะต้องใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่ตนมีในการสำรวจดอกไม้ในแจกันอย่างละเอียดละออ เก็บรวบรวมและนำข้อมูลที่ตนสำรวจได้ไปสื่อสารให้เพื่อนเข้าใจ ขณะที่ “จิตรกร” ผู้รับอาสาวาดภาพดอกไม้ที่ตนไม่มีโอกาสสัมผัสด้วยตาของตนเองก็จำเป็นต้องใช้ทักษะการฟัง การจินตนาการ และความสามารถทางศิลปะเพื่อสื่อให้ภาพที่ออกมานั้นเหมือน หรือใกล้เคียงของจริงให้มากที่สุด การวาดภาพดอกไม้แจกันของเด็กๆ นั่นซึ่งเด็กมีทักษะในการสำรวจผ่านการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 การใช้ความจำเป็นในการเก็บรวบรวมข้อมูลและทักษะในการสื่อสารข้อมูลดีเยี่ยม มีการนำทักษะทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เช่น การชั่ง ตวง วัด มาประยุกต์ใช้ในการเก็บรวบรวม และสื่อสารข้อมูลทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจตรงกัน จึงทำให้ภาพดอกไม้ที่ออกมามีลักษณะเหมือนจริงค่อนข้างมาก
การฝึกให้เด็กใช้ประสาทสัมผัสในการรับรู้และสำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัว
การเก็บรวบรวมข้อมูล และการนำข้อมูลที่ได้ไปสื่อสารนั้น
ถือเป็นทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญมาก คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดกิจกรรมง่ายๆ
ที่บ้านด้วยตนเอง เพื่อฝึกให้ลูกได้ใช้ประสาทสัมผัสได้เช่นกัน
โดยอาจเริ่มต้นจากการชี้ชวนให้ลูกสังเกตธรรมชาติรอบตัว เช่น ต้นไม้ ดอกไม้
และแมลงต่างๆ ในขั้นนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจกระตุ้นให้ลูกวาดภาพของสิ่งที่สังเกตเห็นควบคู่ไปด้วย
และมีการพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของสิ่งที่ลูกสังเกตและภาพที่ลูกวาดว่า
ลูกสังเกตเห็นอะไรบ้าง มีสีอะไร มีขนาดเท่าไร
เมื่อลูกมีความคุ้นเคยและชำนาญมากขึ้น
คุณพ่อคุณแม่ก็อาจเล่นเกมกับลูกโดยอาจให้ลูกเป็นคนสังเกตและนำข้อมูลมาสื่อสารให้คุณพ่อหรือคุณแม่วาดภาพ
หรืออาจสลับบทบาทกันก็ได้
สรุป : การพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ไม่ใช่การศึกษาแบบแยกส่วนอย่างที่หลายๆ
คนเข้าใจ แต่เป็นการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างวิทยาศาสตร์และศิลปะ
เป็นศาสตร์ของการเชื่อมโยงผสมผสานระหว่างสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวและความงดงามในธรรมชาติเข้าด้วยกัน
อันจะนำไปสู่การพัฒนาเจตคติในทางบวกต่อการดำเนินชีวิตของเด็กต่อไปในอนาคต